เที่ยวไม่เหนื่อยบินภายใน 1 เที่ยว (Turkish Airlines) ชม เมืองอิสตันบูล สุเหร่าสีน้ำเงิน สุเหร่าเซนต์โซเฟีย ชมความยิ่งใหญ่ของ พระราชวังโดลมาบาห์เช ชมดินแดนแห่งเทพนิยาย คัปปาโดเกีย ชมดินแดนอันน่าอัศจรรย์ ปามุคคาเล่ (ปราสาทปุยฝ้าย) ชม โชว์ระบำหน้าท้อง สไตล์พื้นเมือง ประเทศตุรกี ชม โรงงานเครื่องหนัง ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของ ประเทศตุรกี ชมสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณ ม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอย ชมเมืองอันรุ่งเรืองในอดีตกาล ที่ปัจจุบันคงไว้เพียงซากปรักหักพัง เมืองเอฟฟิซุส และ เมืองเปอร์กามัม ชม บ้านของพระแม่มารี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่ ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองคุณภาพที่ ตลาดสไปซ์
.
เวลา | สมุทรปราการ (ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ) |
20.00 น. | คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น4 สายการบินTURKIST AIRLINE เคาน์เตอร์ U ประตู 9 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน |
23.00น. | รฟ้าสู่กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน TURKIST AIRLINE เที่ยวบินที่ TK69 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ***คำเตือน!! เพื่ออรรถรสในการเข้าห้องน้ำระหว่างทางของการเดินทางไปยังแต่ละเมืองต่างๆ ของประเทศตุรกีควรเตรียมธนบัตรหรือเหรียญสกุลเงินลีล่าเพื่อเข้าห้องน้ำ อัตราค่าบริการประมาณ 1-2 ลีล่า เป็นธรรมเนียมของการใช้บริการห้องน้ำสาธารณะของประเทศตุรกี ^^*** |
วันที่สอง อิสตันบูล-เมืองอิซเมียร์-บ้านพระแม่มารี-วิหารเทพีอาร์เทมิสโบราณ-โบสถ์เซนต์จอห์น-มัสยิดอิสเบ-เมืองโบราณเอฟฟิซุส-ร้านขนม(TURKISH DElIGHT)-ปามุคคาเล่ (-/L/D)
จากนั้นแวะถ่ายรูป วิหารเทพีอาร์เทมิสโบราณ (THE TEMPLE OF ARTEMIS) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ ที่ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตได้
นำท่านเดินทางชม โรงงานเครื่องหนัง ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องหนังขั้นหลากหลาย ให้ทุกท่านได้ทดลองการเป็นนายแบบและนางแบบเสื้อหนังต่างๆตามอัธยาศัย
|
วันที่สาม เมืองปามุคคาเล่-ปราสาทปุยฝ้าย-เมืองเฮียราโพลิส-เมืองคอนย่า-Caravansarai กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
วันที่สี่ เมืองคัปปาโดเกีย-พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอราเม่-นครใต้ดิน-ชมระบำหน้าท้อง (B/L/D) เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม ** แนะนำโปรแกรมเสริมพิเศษ ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ (Optional Tour) ** 1.บอลลูนทัวร์ (Balloon Tour) ** สำหรับท่านที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย โปรแกรมเสริมพิเศษ จำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 04.30-05.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับไปขึ้นบอลลูน เพื่อชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมไปขึ้นบอลลูน ประมาณ 30-45 นาที อยู่บนบอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการขึ้นบอลลูน ท่านละ 250-300 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (USD.) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และ เครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน ** 2.รถจี๊บทัวร์ (Jeep Tour) ** สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเจียบริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00-06.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับ เพื่อชมความสวยงามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเจียบริเวณภาคพื้นดิน ในบริเวณที่รถเล็กสามารถตะลุยไปได้ ใช้เวลาอยู่บนรถจี๊บประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊บอยู่ที่ ท่านละ ประมาณ 100-150 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (USD.) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ ไม่ครอบคลุมการนั่งรถจี๊บ ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน ** ** คำแนะนำ ** - เนื่องด้วยข้อกำหนดของเวลา ท่านจำเป็นต้องเลือกซื้อแพ็คเกจทัวร์เสริมอย่างใด อย่างหนึ่ง - ท่านที่เมารถ กรุณาทานยาแก้เมารถล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนออกเดินทาง และ ควรแจ้งให้หัวหน้าทัวร์ทราบตั้งแต่ก่อนวันเดินทาง (ตั้งแต่อยู่ประเทศไทย เพื่อเตรียมยาแก้เมารถจากประเทศไทยไป) - กิจกรรมนี้ ไม่อนุญาตให้ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรง หรือ ตั้งครรภ์ เข้าร่วมโดยเด็ดขาด กรณีเกิดความเสียหายไม่ว่ากรณีใดๆทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับผิดชอบทุกกรณี - สำหรับท่านที่ไม่ร่วมในโปรแกรมเสริมพิเศษ ท่านจำเป็นต้องพักผ่อนรอคณะอยู่ที่โรงแรมที่พัก นำทุกท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เมืองเกอเรเม (GOREME MUSEUM)ซึ่งยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำทุกท่านสู่ นครใต้ดิน (UNDERGROUND CITY) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลก เมืองใต้ดินของตุรกีมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อถึงกันเป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมันที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ เมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้อง ๆ มีทั้งห้องครัวห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำและระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้ ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำหน้าท้อง”หรือ Belly Dance เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน (ในช่วงเทศกาลโควิด การแสดง อาจจะมีการยกเลิกโดยไม่แจ้งล่วงหน้า) นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรมสไตล์ถ้ำ!! ALP CAVE DESIGN HOTEL หรือเทียบเท่า **หมายเหตุ:กรณีห้องพักโรงแรมสไตล์ถ้ำประยุกต์เต็ม ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเป็นโรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกัน ซึ่งสไตล์การตกแต่งอาจจะไม่เป็นสไตล์ถ้ำประยุกต์ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า** |
วันที่ห้า เมืองคัปปาโดเกีย-ชมโรงงานทอพรม-โรงงานจิวเวอร์รี่ และ เซรามิค -หุบเขาอุซิซาร์-บินภายใน-เมืองอิสตันบูล (B/L/D) เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หุบเขาเกอเรเม่ ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโรมัน และเป็นที่ที่ชาวคริสเตียนยุคแรกใช้ในการเป็นที่หลบหนีภัยจากการไล่ทำร้ายและสังหารก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นศาสนาที่ได้รับการประกาศว่าเป็นศาสนาของจักรวรรดิ ที่จะเห็นได้จากคริสต์ศาสนสถานจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ หุบเขาเดฟเรนท์ หุบเขาเดฟเรนท์ (Devrent Valley) เป็นที่รู้จักกันในชื่อเรียกว่า หุบเขาแห่งมโนคติ (Imaginary Vally) และ หุบเขาสีชมพู (Pink Valley) ที่มีชื่อว่าหุบเขาแห่งมโนคติก็เนื่องมาจากบรรดาหินรูปทรงแปลกประหลาดซึ่งมีอยู่จำนวนมากมายที่ชวนให้ต้องใช้จินตนาการในการมอง กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูป หุบเขาอุซิซาร์ (UCHISAR VALLEY) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย และถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่าอุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านแวะ ชมโรงงานจิวเวอร์รี่และโรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึก นำทุกท่าน แวะถ่ายรูป ที่ Dervent Valley หุบเขา เดฟเรนท์ Bird Eye View ที่จะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติที่สวยงามได้อย่างจุใจ ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 18.00 น. ได้เวลาอันสมควรนำทุกท่านเดินทางสู่สนามบิน Kayseri Erkilet Airport (ASR) 20.15 น. เหิรฟ้าสู่ เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL) โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK2021 ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1.20 ชั่วโมง (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) 21.45 น. เดินทางถึง เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL) นำท่านเข้าสู่ที่พัก PULMAN HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่หก กรุงอิสตันบูล-สุเหร่าสีน้ำเงิน-ฮิปโปโดรม-พระราชวังทอปกาปึ-สุเหร่าเซนต์โซเฟีย- GRAND BAZAAR (B/L/D) เช้า บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ** ข้อกำหนด โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า และ จำเป็นต้องต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม** สุภาพสตรี : ควรสวมกางเกงขายาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูป และเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ สุภาพบุรุษ : ควรสวมกางเกงขายาว และ เสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป จากนั้นนำทุกท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือ SULTAN AHMET MOSQUE ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 7 ปี ระหว่าง ค.ศ.1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ Sultan Ahmed นั้นเอง จากนั้นนำทุกท่านสู่ จัตุรัสสุลต่านอะห์เมตหรือฮิปโปโดรม (HIPPODROME) สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุสเซเวรุสเพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนตินฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้นตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธีแต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมตซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์3 ต้น คือเสาที่สร้างในอียิปต์เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูลเสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือเสาคอนสแตนตินที่ 7 จากนั้นนำทุกท่านชม พระราชวังทอปกาปึ (TOPKAPI PALACE) ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งถือเป็นเขตประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 พระราชวังทอปกาปึ สร้างขึ้นโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 ในปี ค.ศ.1459 บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 4 ลานกว้าง และมีอาคารขนาดเล็กอีกจำนวนมาก ณ จุดที่สร้างพระราชวังแห่งนี้สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัสโกลเดนฮอร์นและทะเลมาร์มาร่าได้อย่างชัดเจน ในช่วงที่เจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน พระราชวังแห่งนี้มีราชวงศ์และข้าราชบริพารอาศัยอยู่รวมกันมากถึงสี่พันกว่าคนนำท่านเข้าชมส่วนของท้องพระโรงที่เป็นที่จัดแสดงทรัพย์สมบัติข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์เครื่องเงินต่างๆ มากมาย กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำทุกท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (SAINT SOPHIA)หรือ โบสถ์ฮาเจีย โซเฟีย1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์พระเจ้าจักรพรรดิคอนสแตนติน เป็นผู้สร้างเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์แต่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกทำลายเผาเสียวอดวายหลายครั้งเพราะเกิดการขัดแย้งระหว่างพวกที่นับถือศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลามจวบจนถึงรัชสมัยของ พระเจ้าจัสตินเนียนมีอำนาจเหนือตุรกีจึงได้สร้าง โบสถ์เซนต์โซเฟีย ขึ้นใหม่ ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1996 (ค.ศ 1435) พระองค์ต้องการให้เป็นสิ่งสวยงามที่สุดได้พยายามหา สิ่งของมีค่าต่างๆมาประดับไว้มากมาย สร้างเสร็จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่าง มโหฬารต่อมาเกิดแผ่นดินไหวอย่างใหญ่ทำให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมจนเรียบร้อยในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจัสตินเนียน ถึงสมัย พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 มีอำนาจเหนือตุรกี และเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามจึงได้ดัดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็นสุเหร่าของชาวอิสลาม **โปรแกรมพิเศษสำหรับช่วงเดือน เมษายน เดือนเดียวเท่านั้น** นำท่านเข้าชมภายใน สวนดอกทิวลิป อีเมอร์กัน พาร์ค สวนสาธารณะที่สวยที่สุด และมีชื่อเสียงที่สุดของตุรกีโดยที่ตลอดเดือน เมษายน เดือนเดียวเท่านั้น ของทุกปี สวนสาธารณะแห่งนี้จะใช้เป็น สถานที่จัดงาน เทศกาลดอกทิวลิป Tulip Festival 2020 โดยแท้จริงแล้ว ประเทศตุรกี เป็นต้นกำเนิดดอกทิวลิปของโลก คนส่วนใหญ่จะเขาใจผิดว่าเป็น ประเทศเนเธอร์แลนด์ให้ท่านได้อิสระกับการถ่ายภาพดอกทิวลิปหลากสีหลายสาย พันธุ์นับเป็นล้าน ๆ ดอก ได้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ ตลาดในร่ม (KAPALI CARSISI หรือ COVERED BAZAAR) หรือ แกรนด์บาซาร์ (GRAND BAZAAR) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงตั้งราคาสินค้าเอาไว้ค่อนข้างสูง ควรต่อรองราคาให้มาก ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก PULMAN HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่เจ็ด เมืองอิสตันบูล-ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส-ตลาดสไปซ์มาร์เก็ต-BALAT&FENER ISTIKLAL STREET-TAKSIM SQUARE (B/L/-) เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำทุกท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส จุดที่บรรจบกันของทวีปยุโรปและเอเชีย ซึ่งทำให้ประเทศตุรกีได้รับสมญานามว่า ดินแดนแห่งสองทวีป ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเนื่องจากเป็นเส้นทางเดินเรือที่เชื่อมทะเลดำทะเลมาร์มาร่า เราจะได้เห็นป้อมปืนที่ตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบได้แก่ Rumeli Castle และ Anatolia Castle โดยจุดชมวิวที่สำคัญคือสะพาน แขวนบอสฟอรัส เชื่อให้รถยนต์สามารถวิ่งข้ามฝั่งยุโรปและเอเชียได้ สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1973 มีความยาวทั้งสิ้น 1,560 เมตร และได้กลายเป็นสะพานแขวนที่ยาวเป็นอันดับ 4 ของโลกในสมัยนั้น (ปัจจุบันตกไปอยู่อันดับที่ 21) ขณะที่ล่องเรือพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศสองข้างทาง ซึ่งสามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาเช่และบ้านเรือนของบรรดาเหล่าเศรษฐีที่สร้างได้สวยงามตระการตา กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านสู่ ตลาดสไปซ์มาร์เก็ต (SPICE MARKET)หรือตลาดเครื่องเทศ ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก เครื่องประดับ ชา กาแฟ ผลไม้อบแห้ง ขนมของหวานขึ้นชื่อและถั่วหลากหลายชนิดให้เลือกสรร จากนั้นให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศใหม่ ไม่เหมือนใครกับการชมเมืองอีสตันบูล รูปแบบสไตล์เมืองเก่า นั้นคือ ย่าน BALAT & FENER ชุมชนชาวยิวเก่าแก่ กว่า 100 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองเก่าของกรุงอีสตันบูล โดยอยู่ฝั่งบริเวณเขตยุโรป ท่านจะได้สัมผัสความคลาสสิคของตึกเก่า ที่ปลูกสร้างตามแนวสันเขาเล่นระดับแบบมีเอกลักษณ์ และที่สำคัญยังสวยงาม ด้วยสีสันสดใส สะดุดตา น่ามอง จนทำให้เกิดเป็นมุมถ่ายรูป ชิคๆ เก๋ๆ มากมายในเขตชุมชนแห่งนี้ และน่าแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากความสงบเงียบ และเป็นมิตรของผู้คนในย่านนี้ ทำให้ท่านแทบไม่เชื่อเลยว่ากำลังเดินเที่ยวอยู่ ณ เมืองอิสตันบูล จนชุมชนนี้ได้ถูกขนานนามจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนว่า ซิงเกวเตเล่ แห่งตุรกี จากนั้น นำทุกท่าน เดินเที่ยวชม ISTIKLAL STREET หรือที่เรียกว่า Grand Avenue Of Pera เป็นเส้นทางที่มีชื่อเสียงและดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง อิสตันบูล ตั้งอยู่บนย่านเก่าแก่ ซึ่งถนนเส้นนี้ ทอดยาวจาก จัตุรัส ทักซิม (TAKSIM SQUARE) “)ไปจนถึงสถานี เบโยกลู (BEYOGLU STATION) เป็นถนนคนเดินที่หรูหรา ยาว 1.4 ก.ม. มีร้านค้า ร้านอาหาร ชื่อดัง ให้ทุกท่านได้เยี่ยมชมอย่างเพลิดเพลิน และมีอาคารที่รายล้อมด้วย อาคารยุค ออตโตมัน ตอนปลาย มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เป็นที่ดึงดูด นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ เป็นอย่างมาก จากนั้น อิสระให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับการ เดินช้อปปิ้ง ถ่ายรูป ย่าน TAKSIM SQUARE เป็นสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงและนับว่าเป็นหัวใจ ของ เมืองอิสตันบูลเลยทีเดียว ซึ่ง ไฮไลท์ของ TAKSIM SQUARE อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ รถรางสีแดงสด ที่วิ่งจาก จัตุรัส ทักซิม ไปตามถนน ใกล้กับ สถานีทูเนล ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเป็นอันดับ สอง ให้ทุกท่าน รับประทานอาหารค่ำอิสระ (ไม่รวมในโปรแกรม) ได้เวลาอันสมควรนำทุกท่านเดินทางสู่สนามบิน |
วันที่แปด กรุงเทพฯ (-/-/-) 01.45 น. เหิรฟ้าสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK68 ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 10 ชั่วโมง (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) 15.25 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิกรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดิภาพและความประทับใจ |
เวลา | เติร์กเมนิสถาน - สมุทรปราการ (ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ) |
---|---|
03:40 น. | ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน Turkmenistan Airlines เที่ยวบินที่ T5647 |
11:55 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมด้วยความประทับใจ |
***รายการท่องเที่ยวอาจเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ*** อัตราค่าบริการ **ราคานี้ สงวนการเดินทาง จำนวน 15 ท่านขึ้นไป** ** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน ,รถทัวร์ ,รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ** ** สำหรับอัตราค่าบริการนี้ จำเป็นต้องมีผู้เดินทางจำนวน 15 ท่าน ขึ้นไป ในแต่ละคณะ กรณีที่มีผู้เดินทางไม่ถึงตามจำนวนที่กำหนด ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนการเดินทาง หรือเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ (ปรับราคาเพิ่มขึ้น เพื่อให้คณะได้ออกเดินทาง ตามความต้องการ) ** ** ทางบริษัทขอความกรุณาให้ท่านศึกษารายละเอียด ทั้งหมดก่อนทำการจอง โดยละเอียดทุกข้อ ** ** ทางบริษัทขอความกรุณาให้ท่านศึกษารายละเอียด ทั้งหมดก่อนทำการจอง โดยละเอียดทุกข้อ ** อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม เงื่อนไขการจอง และ การชำระค่าบริการ ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ โรงแรมที่พัก ที่ท่านควรทราบ
เงื่อนไข และ ข้อควรทราบอื่นๆ ทั่วไป ที่ท่านควรทราบ หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทาง |