โปรแกรมZGIST-2202TK Turkey Istanbul Cappadocia 9D6N BY TK

ZGIST-2202TK Turkey Istanbul Cappadocia 9D6N BY TK ZGIST-2202TK Turkey Istanbul Cappadocia 9D6N BY TK ZGIST-2202TK Turkey Istanbul Cappadocia 9D6N BY TK
Highlights
  •  พักโรงแรม 5 ดาว และโรงแรมสไตล์ถ้ำ 1 คืน
  •  เที่ยวไม่เหนื่อยบินภายใน 1 เที่ยว (Turkish Airlines)
  •  ชม เมืองอิสตันบูล สุเหร่าสีน้ำเงิน สุเหร่าเซนต์โซเฟีย
  •  ชมความยิ่งใหญ่ของ พระราชวังโดลมาบาห์เช
  •  ชมและสัมผัสความงามของเทศกาลดอกทิวลิป ที่งดงาม 1 ปีมีครั้งเดียว
  •  ชมดินแดนแห่งเทพนิยาย คัปปาโดเกีย
  •  ชมดินแดนอันน่าอัศจรรย์ ปามุคคาเล่ (ปราสาทปุยฝ้าย) •
  • ชม โชว์ระบำหน้าท้อง สไตล์พื้นเมือง ประเทศตุรกี
  •  ชม โรงงานเครื่องหนัง ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของ ประเทศตุรกี
  •  ชมสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณ ม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอย
  •  ชมเมืองอันรุ่งเรืองในอดีตกาล ที่ปัจจุบันคงไว้เพียงซากปรักหักพัง เมืองเอฟฟิซุส และ เมืองเปอร์กามัม
  •  ชม บ้านของพระแม่มารี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่ •
  • ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองคุณภาพที่ ตลาดสไปซ์
  • เริ่มต้นที่ : 69,999.-
  • รหัสโปรแกรม : LGTR-TK1564
  • เดินทางช่วง : เมษายน 2565
  • ระยะเวลา : 9 วัน 6 คืน
  • สายการบิน :
รายละเอียดโปรแกรม
เวลา สนามบินสุวรรณภูมิ
20.00 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน Tukish Airlines เที่ยวบินที่ TK69 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง 50 นาที
23.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยาน นานาชาติอิหม่ามโคไมนี ประเทศอิหร่าน(แวะเปลี่ยนเครื่อง 3.10 ชม. เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 3.30 ชม.)

 

เวลา

อิสตันบูล-สุเหร่าสีน้ำเงิน-ฮิปโปโดรม-สวนดอกทิวลิป อีเมอร์กัน พาร์ค- สุเหร่าเซนต์โซเฟีย-เมืองหลวง อังการ่า        (-/L/D)
05.10 น.    

เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี หลังจากนั้นนำท่านผ่านขั้นตอนการตรงจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) พร้อมออกเดินทางท่องเที่ยว เมืองอิสตันบูล เป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุดของประเทศตุรกี มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาล มีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) สถาปัตยกรรมอันงดงามผสมผสานทั้ง 2 ทวีป ทำให้เมืองอิสตันบูลมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์พิเศษ อีกทั้งพื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งอิสตันบูล ฝั่งทวีปยุโรป ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ค. 1986

นำท่านเดินทางเข้าชมสุเหร่าสีน้ำเงิน หรือ ชื่อเดิม สุเหร่าสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 การเข้าชมสุเหร่าทุกแห่งจะต้องถอดรอดเท้า ถอด หมวก ถอดแว่นตาดำ เป็นการเคารพสถานที่ สามารถถ่ายภาพด้านในได้ ห้ามส่งเสียงดังและกรุณาทำกิริยาให้สำรวม สุเหร่านี้สร้างในปี ค.ศ. 1609 และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1616 (1 ปีก่อนสุลต่านอาห์เหม็ดสิ้นพระชนม์ด้วยอายุเพียง 27 พรรษา) มีหอเรียกสวด อยู่ 6 หอ เป็นหอคอยสูงให้ผู้นำศาสนาขึ้นไปตะโกนร้องเรียกจากยอด เพื่อให้ผู้คนเข้ามาสวดมนต์ตามเวลาในสุเหร่า ชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอซนิค ลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่น กุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ภายในมีที่ให้สุลต่านและนางในฮาเร็มทำละหมาดและสวดมนต์โดยเฉพาะ มีหน้าต่าง 260 บาน สนามด้านหน้าและด้านนอกจะเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์และพระราชวงค์ จะมีสิ่งก่อสร้างที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไป เช่น ห้องสมุด โรงพยาบาล โรงอาบน้ำ ที่พักกองคาราวาน โรงครัวสาธารณะคุลีเรีย (Kulliye)หมายเหตุ : โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่าและจำเป็นต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม

สุภาพสตรี ควรสวมกางเกงขายาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูป และเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ

สุภาพบุรุษ ควรสวมกางเกงขายาว และเสื้อแขนยาวไม่รัดรูป

จากนั้นนำท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ ฮิปโปโดรม (Hippodrome) คือสิ่งก่อสร้างจากสมัยกรีกซึ่งใช้เป็น

สนามแข่งม้า และการแข่งขันขับรถศึก (Chariot Racing) โดยคำว่า ฮิปโปส และ โดรโมส ปัจจุบันถูกนำไปใช้ในภาษาฝรั่งเศสด้วย หมายถึงการแข่งขันม้าใจกลางเมืองมอสโคว์ (Central Moscow Hippodrome) น่าเสียดายที่เหลือแต่ซากปรักหักพังของฮิปโปโดรมของกรุงคอนสแตนดิโนเบิลในอดีต หรือ อิสตันบูลในปัจจุบัน แม้จะยิ่งใหญ่และเก่าแก่ในสมัยโบราณสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 203 – 330 แต่ปัจจุบันเหลือเพียง เสา 3 ต้น คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) สร้างเมื่อไหร่ไม่มีใครทราบ แต่บูรณะเมื่อศตวรรษที่ 10 เสาต้นที่ 2 คือ เสางู ที่เชื่อว่าสร้างก่อนคริสตกาลมา 479 ปี เป็นรูปสลักงู 3 ตัวพันกัน จากเมืองเดลฟิ (Delphi) แล้วถูกขนย้ายมาตั้งที่นี่เมื่อ ศตวรรษที่ 4 ปัจจุบันเหลือเพียงครึ่งต้น และเสาต้นสุดท้ายคือ เสา อียิปต์ หรือเสาโอเบลิสก์ (Obelisk of Thutmose)  สร้างในช่วงก่อนคริสตกาลประมาณ 390 ปี มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกคือ Obeliskos หมายถึง เหล็กแหลม เข็ม หรือ เสาปลายแหลม ลักษณะของเสาโอเบลิสก์จะเป็นเสาสูง สร้างจากหินแกรนิตขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว ฐานของเสาจะกว้างและค่อยๆ เรียวแหลมขึ้นสู่ยอดด้านบนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมสี่ด้าน ยอดบนสุดจะเป็นลักษณะเหมือนพีรามิด และมักนิยมหุ้มหรือเคลือบด้วยโลหะ เช่น ทองคำ เหล็ก หรือ ทองแดง เป็นต้น เสาโอเบลิสก์

เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะที่มีต้นกำเนิดจากอียิปต์โบราณ เป็นสัญลักษณ์แห่งเส้นทางสู่วิหารเทพเจ้า ปกติจะนิยมสร้างขึ้นเป็นคู่ ตั้งอยู่ ณ บริเวณทางเข้าวิหาร ตัวอย่างเช่นที่ วิหารลักซอร์ หรือ วิหารคาร์นัค เป็นต้น บริเวณรอบๆ เสาโอเบลิสก์จะแกะสลักเป็นร่องลึกด้วยอักษรเฮียโรกลิฟฟิก บอกเล่าถึงฟาโรห์ผู้สร้าง และเรื่องราวของการสร้างเพื่อบูชาเทพเจ้า ดังนั้น เสาโอเบลิสก์จึงเป็นเสมือนหนึ่งเสาอนุสรณ์ บ่งบอกถึงนัยยะแห่งที่ตั้งของสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์โบราณ

หลังจากนั้นนำท่านเข้าชม วิหารเซนต์โซเฟีย (St.Sophia) หรือ สุเหร่าฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia)1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิก สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินก้อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครอบเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี้ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก ภายหลังทางการได้ตกลงให้วิหารฮาเกีย โซเฟีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่วันนี้คงบรรยากาศของความเก่าขลังอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะโดมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกซึ่งมีพื้นที่โล่งภายในใหญ่ที่สุด ก่อสร้างด้วยการใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้นแทนการใช้เสาค้ำยันทั่วไป นับเป็นเทคนิคการก่อสร้าง ที่ถือว่า ล้ำหน้ามากในยุคนั้น (ถือเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้วิหารฮาเกีย โซเฟีย ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางเข้าชม พระราชวังโทพคาปึ (Topkapi Palace) เดิมเป็นที่ประทับหลักของสุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมัน ระหว่างปี ค.ศ. 1465 จนถึงปี ค.ศ. 1853 เดิมพระราชวังนี้ใช้ชื่อว่า พระราชวังหลวงแห่งใหม่ (Saray-I Cedid-I Amire) จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบันในรัชสมัยสุลต่านมะห์มุดที่ 2 ตามชื่อพระราชวังริมทะเลที่ถูกเพลิงไหม้ ในปัจจุบันพระราชวังโทพคาปึเป็นสถานที่จัดงานรับรองของรัฐ และเป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว และเป็นที่เก็บรักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของมุสลิมเช่นเสื้อคลุมและดาบของมุฮัมมัด และตั้งอยู่ในบริเวณประวัติศาสตร์ของอิสตันบูลที่ได้รับการสถาปนาให้เป็นมรดกโลกหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมันในปี ค.ศ. 1921 พระราชวังโทพคาปึก็เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ตามรัฐประกาศของวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1924 ภายใต้การบริหารของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งตุรกี พระราชวังเป็นกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่มีห้องหอเป็นจำนวนร้อยแต่เปิดให้ สาธารณรัฐชนชมแต่เฉพาะเพียงห้องสำคัญ ๆ ที่เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะสถาปัตยกรรมออตโตมัน นอกจากนั้นก็ยังมีห้องแสดงเครื่องเคลือบพอร์ซีเลน เสื้อคลุม อาวุธ เสื้อเกราะ หนังสือวิจิตรออตโตมัน หนังสืออักษรวิจิตรอิสลาม (Islamic calligraphy) จิตรกรรมฝาผนัง และเครื่องราชสมบัติ และเพชรพลอย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ร้านเตอร์กิช ดีไลท์ (Turkish Delight Shop) คือขนมหวานขึ้นชื่อของประเทศตุรกี ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกกันว่าโลคุม (Lokum) เป็นขนมหวานทรงลูกเต๋าที่ประกอบขึ้นจากแป้งและน้ำตาล มักจะมีอัลมอนด์ ถั่วพิสตาชิโอ วอลนัท และแมคคาเดเมียผสมเข้าไปด้วย โดยส่วนมากหน้าตาจะมีสีชมพูเข้ม แต่ก็ดูจางลงไปทันทีเมื่อเสิร์ฟกับน้ำตาลไอซิ่งที่คลุกเคล้าประหนึ่งแป้งฝุ่น มีรสหวาน สอดแทรกด้วยความกรอบและมันของถั่วคุณภาพดี ชาวตุรกีนิยมทานคู่กับชาร้อน หรือ ชากลิ่นแอปเปิล

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สไปซ์บาซาร์ (Spice Bazaar) หรือ ตลาดอียิปต์ (Egyptian Bazaar) เป็นตลาดเครื่องเทศตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา ที่นี่ถือเป็นตลาดในร่มและเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660 โดยเป็นส่วนหนึ่งของมัสยิดใหม่ ภายในตลาดยังมีสินค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อ อาทิ อาหาร, เครื่องเทศ, ขนมหวานของตุรกี, เครื่องเพชรพลอย, ของที่ระลึก, ผลไม้แห้ง และเครื่องประดับต่างๆ อีกด้วย

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ อาหารจีน

ที่พัก GOLDEN WAY HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือระดับเทียบเท่า

เวลา พระราชวังโดลมาบาห์เช – ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส ชมเทศกาลดอกทิวลิป – เมืองบูร์ซา – หมู่บ้านโบราณคูมาลิคิซิค – สะพานเอร์กันดิ
 

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าชมพระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace)สร้างโดยสุลต่านดับดุล เมซิดAbdul Macit) ในปี ค.ศ. 1843 และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1856 สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ด้วยศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ตัวอาคารยาวถึง 600 เมตร ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มาราบริเวณช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรป บริเวณรอบนอกประดับประดาด้วยสวนสวยริมทะเล หอนาฬิกา อุทยานดอกไม้ น้ำพุ สระน้ำ รูปปั้น รูปสลักต่างๆ วางประดับไว้อย่างลงตัวน่าชื่นชมในรสนิยมของสุลต่านแห่งออตโตมันเป็นอย่างยิ่ง

จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมความสวยงามของช่องแคบบอสฟอรัส Bosphorus Cruise)ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) กับทะเลมาร์มารา (Sea of Marmara) โดยมีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตรความกว้าง เริ่มตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ช่องแคบนี้ถือว่าเป็นจุดบรรจบกันของสุดขอบทวีปยุโรปและสุดขอบทวีปเอเชีย ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้วช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนีย์ภาพอันสวยงามของริมฝั่งช่องแคบแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาห์เชหรือบ้านเรือสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐีแห่งประเทศตุรกีทั้งทั้งระหว่างล่องเรือ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตรคาร พิเศษ อาหารไทย

นำท่านชม เทศกาลดอกทิวลิป Emirgan Park)ที่จัดขึ้นทั่วเมืองอิสตันบูล เป็นช่วงเทศกาลอันอบอวลไปด้วยความโรแมนติก และความงดงามของสีสันอันมาจากธรรมชาติ เทศกาลนี้จัดขึ้นช่วงมีนาคมถึงเดือนเมษายนของทุกปี เพื่อต้องการแสดงความเป็นต้นกำเนิดของดอกทิวลิปแท้ๆ โดยมีตำนานเล่าขานกันว่าเมื่อ 300 ปีก่อน มีท่านทูตแห่งตุรกีได้นำดอกทิวลิปมอบให้กับทูตเวียนนา เพื่อนำไปปลูกที่ประเทศออสเตรีย แต่มีชาวสวนดัตช์ในออสเตรียนำดอกทิวลิปไปปลูกที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และต่อๆ มาดอกทิวลิปก็แพร่กระจายไปทั่วโลก และในทุกๆ ปีภายในเทศกาลสวนดอกทิวลิปมีการตกแต่งและจัดสวนดอกทิวลิปที่เบ่งบานพร้อมกันเป็นภาพที่งดงามมาก เหมาะแก่การถ่ายภาพเป็นที่สุด

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบูร์ซา Bursa) ตั้งอยู่บนยอดเขาอุลูดัค (Uludag) ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี โดยที่นี่ถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งรีสอร์ทและสกีเนื่องจากเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย นอกจากนี้บูร์ซายังเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอาณาจักรออตโตมานบนคาบสมุทรอนาโตเลียในอดีต จากจุดนี้ จักรวรรดิออตโตมันใช้เป็นฐานที่มั่นในการวางแผนเข้าตี เมืองคอนสแตนตินโนเปิลConstantinople เมืองหลวงของจักรวรรดิไบเซนไทน์ Byzantine’s Empire ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งยุโรป หลังจากที่พิชิตเมืองคอนสแตนตินโนเปิลได้ จึงเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองอิสตันบูล

ในปัจจุบัน อีกทั้งบูร์ซายังเป็นเมืองที่ได้รับการยอมรับจากชาวตุรกีและนักชิมทั่วไปว่าเป็นเมืองแห่งกะบับที่เป็นอาหารพื้นเมืองที่อร่อยที่สุดในประเทศอีกด้วย

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโบราณคูมาลิคิซิค Cumalikizik Village) เป็น(The United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization = UNESCO) เมื่อปี ค.ศ. 2014 เมืองแห่งนี้ยังได้รับการรักษา

โครงสร้างสถาปัตยกรรมเป็นอย่างดี ทั้งนี้บริเวณทางเข้าหมู่บ้านยังมีร้านค้าขายของฝากที่ระลึกมากมายอีกด้วย

หลังจากนั้นนำท่านสู่ สะพานเอร์กันดิ เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองบูร์ซา สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1442 ในรัชสมัยของสุลต่านมูรัตที่ 2 แห่งจักรวรรดิออตโตมัน ยังมีลักษณะเด่นคือมีร้านค้าที่ตัวอาคารสีเหลืองเด่นประกอบด้วยประตู หน้าต่างและหลังคาสีน้ำตาลตัดกันสบายตาเรียงรายทั่วทั้งตัวสะพาน ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองและถ่ายภาพตามอัธยาศัย

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

พักที่LEVOR HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเอฟฟิซุส (Ephesus)เป็นเมืองกรีกโบราณที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของอานาโตเลียในจังหวัดอิซมีร์ในประเทศตุรกีปัจจุบัน

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าชมเมืองเอฟฟิซุส (Ephesus)เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Lonia) จากกรีกซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุสขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถผ้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน เข้าชม ห้องอาบน้ำโรมันโบราณ (Roman Bath)ที่ยังคงเหลือร่องรอยรของห้องน้ำ ห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ นำ

ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึก กับ หอสมุดเซลซุส (Library of Celsus) มีความสวยงามเป็นเลิศ สร้างโดยติเบริอุส จูลิอุส อาควิลา อุทิศให้กับบิดา ชื่อ ติเบริอุส จูลิอุส เซลซุส ในปี 657 – 660 และได้ฝังโลงศพของบิดาที่ทำจากหินเอาไว้ใต้หอสมุดแห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2015

จากนั้นนำท่านเข้าชม บ้านพระแม่มารี (House of Virgin Mary) ชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คริสต์ศาสนิกชนจะต้องหาโอกาสขึ้นไปนมัสการให้ได้สักครั้งในชีวิต

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซี Kusadasi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที) เมืองท่าเลียบชายฝั่งทะเลของประเทศตุรกี ในอดีตเมืองนี้เป็นเหมือนท่าเรือขนส่งสินค้า เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงส่งออกทั่วโลก

ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น >

พักที่ MARINA HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เวลา

เมืองเอฟฟิซุส ห้องอาบน้ำโรมันโบราณหอสมุดเซล ซุส บ้านพระแม่มารี เมืองคูซาดาซี

เวลา โรงงานผลิตเครื่องหนัง เมืองปามุคคาเล – ปราสาทปุยฝ้าย – เมืองโบราณเฮียราโพลิส
 

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โรงงานผลิตเครื่องหนัง ซึ่งประเทศตุรกีเป็นประเทศที่มีฐานการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งยังผลิตเสื้อหนังให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี อาทิ Versace, Prada, Michael Kors อีกด้วย อิสระให้ท่านเลือกชมผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนัง และ สินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองปามุคคาเล (Pamukkale)เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนไหลลงสู่หน้าผา จนเกิดผลึกกึ่งสถาปัตยกรรมสีขาวขึ้น

เที่ยงบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle)ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆ หลายชั้น และผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก ภายในบริเวณเดียวกันนี้ยังเป็น

เมืองโบราณเฮียรา>พลิส (Hierapolis)เป็นเมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อน ซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรค เมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลง เหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป บางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร เช่น โรงละคร แอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ เป็นต้น ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1988

ค่ำ บริการาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

พักที่ PAM THERMAL HOTEL ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

เวลา ที่พักคาราวานเซราย – เมืองคัปปาโดเกีย – เมืองใต้ดิน
 

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ระหว่างทางนำท่านแวะถ่ายภาพ ที่พักคาราวานเซราย (Caravanserai) เป็นสถานที่พักแรกของกองคาราวานในสมัยโบราณตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia)เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่าง ทะเลดำกับภูเขาเทารุส มีความสำคัญมาแต่โบราณกาล เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางการค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ที่ทอดยาวจากประเทศตุรกีไปจนถึงประเทศจีน เป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว เกิดจากลาวาที่พ่นออกมา และเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวย (คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ดินแดนแห่งปล่องไฟนางฟ้า” (Fairy Chimney) โดยชื่อ คัปปาโดเกีย

เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไตต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า “ดินแดนม้าพันธุ์ดี” และในปัจจุบันนี้ก็ยังเลี้ยงม้ากันอยู่บริเวณนี้ อีกทั้ง ยังมีเมืองใต้ดินที่ซ่อนอยู่ใต้เมืองคัปปาโดเกียแห่งนี้ ถือเป็นเมืองใต้ดินโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะที่เมืองใต้ดินแห่งนี้ขุดลึกลงไปถึง 10 ชั้น ประมาณ 90 เมตร และภายในเมืองใต้ดินยังแบ่งซอยเป็นห้องย่อย เฉพาะที่เมืองคัปปาโดเกียมีเมืองใต้ดินมากถึง 15 แห่ง และถ้ารวมทั้งเมืองอื่นๆ ด้วยก็เกือบ 200 แห่งเลยทีเดียว และยังมีการขุดเชื่อมกันระหว่างแต่ละเมืองอีกด้วย ซึ่งภายในเมืองใต้ดินมีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องหมักไวน์ ห้องประชุม คอกสัตว์ โบสถ์ บ่อน้ำ บางห้องเป็นห้องโถงกว้าง ด้วยความอัศจรรย์ใต้พื้นดินแห่งนี้ เมืองคัปปาโดเกีย จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1985 ได้ขึ้นทะเบียนเมืองใต้ดินแห่งเมืองคัปปาโดเกียเป็นสถานที่มรดกโลกอีกด้วย

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าชม เมืองใต้ดิน(Underground City) <เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมัน ที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ ภายในมีโซนห้องต่างๆ อาทิ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องหมักไวน์ ห้องประชุม

คอกสัตว์ โบสถ์ บ่อน้ำ บางห้องเป็นห้องโถงกว้างว่ากันว่าสามารถจุคนได้มากกว่า 30,000 คน และระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบา เพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงอาจค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้ ควรใช้ความระมัดระวังในการรับลงไปชมเมืองใต้ดินแห่งนี้

ค่ำ; บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม

UCHISAR KAYA HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือระดับเทียบเท่า

หมายเหตุ : ท่านควรเตรียมกระเป๋าสัมภาระใบเล็ก เพื่อแยกสัมภาระสำหรับค้างคืนที่โรงแรมถ้า 2 คืน เพื่อความสะดวกในการเดินทางของท่าน เนื่องจากโดยส่วนใหญ่โรงแรมสไตล์ถ้ำในเมืองนี้ไม่มีลิฟท์ให้บริการ

เวลา

ชมบอลลูนหลากสี – เกอเรเม – พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม – โรงงานทอพรม – โรงงานเซรามิก – โรงงานเครื่องประดับ – เมืองคัปปาโดเกีย ชมการแสดงระบำหน้าท้อง Belly Dance

 

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

บอลลูนหลากสี (ไม่รวมค่าขึ้นบอลลูน) ไฮไลท์ของเมืองคัปปาโดเกียและจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก ให้ท่านได้อิสระถ่ายภาพและหากท่านใดสนใจขึ้นบอลลูน และกิจกรรมอื่นๆ รายละเอียดดังนี้ กิจกรรมเสริมพิเศษนี้ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ (Optional Tour)

  1. บอลลูนทัวร์ (Balloon Tour)สำหรับท่านที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย โปรแกรมเสริมพิเศษ จำเป็นต้องออกจากโรงแรมประมาณ 04.30 – 05.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับไปขึ้นบอลลูน เพื่อชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมไปขึ้นบอลลูน ประมาณ 30 – 45 นาที อยู่บนบอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการขึ้นบอลลูน ท่านละ ประมาณ 250 – 300 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD)

ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน

  1. รถจี๊ปทัวร์ (Jeep Tour) สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมจำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 – 06.00 น. โดยมีรถท้องถิ่นมารับ เพื่อชมความสวยงามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกียบริเวณภาคพื้นดินในบริเวณที่รถเล็กสามารถตะลุยไปได้ ใช้เวลาอยู่บนรถจี๊ป ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊ปอยู่ที่ ท่านละ 100 – 150 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน

คำแนะนำ

  • เนื่องด้วยข้อกำหนดของเวลา ท่านจำเป็นต้องเลือกซื้อแพ็กเกจทัวร์เสริมอย่างใด อย่างหนึ่ง
  • ท่านที่เมารถ กรุณาทานยาแก้เมารถล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งก่อนออกเดินทาง และควรแจ้งให้หัวหน้าทัวร์ทราบตั้งแต่

 

ก่อนวันเดินทาง (ตั้งแต่อยู่ประเทศไทย เพื่อเตรียมยาแก้เมารถจากประเทศไป)

  • กิจกรรมนี้ ไม่อนุญาตให้ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรง, ตั้งครรภ์ หรือ เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี เข้าร่วมโดยเด็ดขาด กรณีเกิดความเสียหายไม่ว่ากรณีใดๆ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการรับผิดชอบทุกกรณี
  • สำหรับท่านที่ไม่ร่วมในโปรแกรมเสริมพิเศษ ท่านจำเป็นต้องพักผ่อนรอคณะอยู่ที่โรงแรมที่พัก

            จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเกอเรเม (Goreme) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณของเมืองคัปปาโดเกียในตอนกลางของอานาโตเลียประเทศตุรกี เมืองเกอเรเมตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโรมัน และเป็นสถานที่ที่ชาวคริสเตียนยุคแรกใช้ในการเป็นที่หลบหนีภัยจากการไล่ทำร้ายและสังหารก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นศาสนาที่ได้รับการประกาศว่าเป็นศาสนาของจักรวรรดิ ที่จะเห็นได้จากคริสต์ศาสนถานจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการทอพรม และการผลิตเครื่องเซรามิก ล้ำค่าแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

เที่ยง      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตรคารท้องถิ่น

            จากนั้นนำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (Open Air Museum of Goreme) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี

ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์

นำท่านเดินทางเข้าเยี่ยมชม โรงงานทอพรม(Carpet Factory), โรงงานเซรามิก (Ceramic Factory) และโรงงานเครื่องประดับ (Jewelly Factory) เพื่อให้ท่านได้ชมการสาธิตกรรมวิธีการผลิตสินค้าพื้นเมืองทีมีคุณภาพและชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย

บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านชมการแสดงพื้นเมือง โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance)เป็นการโชว์เต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่งของชาวตุรกี ซึ่ง

มีมาประมาณ 6,000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์และเมดิเตอร์เรเนียน นักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องนี้ไว้ให้มีมาจนถึงปัจจุบัน การโชว์ระบำหน้าท้องนี้ได้มีมาอย่างแพร่หลายและมีการพัฒนาซึ่งเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงาม จนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องของประเทศตุรกีในปัจจุบัน

ที่พัก UCHISAR KAYA HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือระดับเทียบเท่า

หมายเหตุท่านควรเตรียมกระเป๋าสัมภาระใบเล็ก เพื่อแยกสัมภาระสำหรับค้างคืนที่โรงแรมถ้า 2 คืน เพื่อความสะดวกในการเดินทางของท่าน เนื่องจากโดยส่วนใหญ่โรงแรมสไตล์ถ้ำในเมืองนี้ไม่มีลิฟท์ให้บริการ

เวลา ปล่องนางฟ้า – หุบเขานกพิราบ – หุบเขาอุซิซาร์        – สนามบินไกเซรี – สนามบินอิสตันบูล
07:45 

เช้า        บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

            นำท่านเดินทางสู่ ปล่องนางฟ้า (Pasabag Valley) ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 3 ล้านปีที่แล้ว ผ่านร้อนหนาวลมฝน เกิดเป็นภูมิประเทศแปลกตา เป็นหินรูปแท่งกรวยคว่ำหลากหลายรูปแบบ ดูเหมือนดินแดนเทพนิยาย คนพื้นเมืองจึงเรียกขานกันว่า ปล่องไฟนางฟ้า ในปี ค.ศ.1985  ยูเนสโก้ ได้ยกให้เมืองนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี  ซึ่งนอกจากไฮไลท์ที่เป็นเมืองถ้ำ ปล่องไฟนางฟ้า เมืองนี้ยังมีความสำคัญแต่โบราณ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม ทางแห่งการค้าและวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่

            หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) หน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย จากจุดนี้ นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ (Uchisar Castle) ได้จากระยะไกล ที่นี่เต็มไปด้วยนกพิราบมากมายที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เพื่อนำมูลมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ บริเวณริมผาซึ่งเป็นจุดชมวิวที่หุบเขานกพิราบมีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น ด้วยเรื่องของความเชื่อกับผู้คนนั้นเป็นของคู่กันมาเนิ่นนาน เช่นกันกับดินแดนแถบนี้ที่มีความเชื่อเรื่องนัยน์ตาปิศาจ โดยเชื่อกันว่าบุคคลพิเศษบางคน

            มีดวงตาชั่วร้ายที่สามารถจ้องเพื่อทำอันตรายผู้อื่นได้ ซึ่งสิ่งที่จะช่วงปกป้องภัยร้ายจากดวงตาปิศาจนี้ก็คือดวงตาสีฟ้า

เที่ยง      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

            จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หุบเขาอุชิซาร์ (Uchisar Valley) ให้ท่านได้ถ่ายภาพด้านหน้า เป็นหุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาแห่งนี้มีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย อุชิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุชิซาร์ มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย

            หลังจานั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินไกเซรี ประเทศตุรกี

18.20    นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี
โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK2015

19.50    เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี

            หลังจากนั้นให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งที่สนามบินและเช็คอินเพื่อเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

เวลา สนามบินอิสตันบูล สนามบินสุวรรณภูมิ
01.55

นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน เที่ยวบินที่TK68

15.00 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ< ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
เงื่อนไขโปรแกรม
เงื่อนไขการเดินทางระหว่างสถานการณ์โควิค19

1.ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศตุรกี จะต้องลงทะเบียน online ล่วงหน้า 72 ชั่วโมงก่อนที่จะเดินทางเข้าประเทศตุรกี

ที่เว็บไซต์  http://register.health.gov.tr

2. เอกสารจะต้องเตรียมก่อนการเดินทาง

   - พาสปอร์ตตัวจริง (เหลืออายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน)

   - วัคซีนพาสปอร์ต รับรองการฉีดวัคซีนโควิค 19 ครบ 2 เข็ม

   - ใบรับรองผลตรวจโควิค RT PCR ตรวจที่ไทย ภายใน 72 ชม.ก่อนการเดินทาง

 3.เอกสารเดินทางกลับ ใบรับรองผลตรวจโควิค RT PCR ตรวจที่ตุรกี ก่อนเดินทางกลับเข้าไทย (35เหรียญ)

การจองและชำระเงิน

- กรุณาชำระค่ามัดจำท่านละ 15,000.- บาท ภายใน 3 วัน จองเดินทาง ***

- กรุณาชำระค่าบริการส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนการเดินทาง 30 วัน

 

ข้อเสนอแนะบางปรการและต้องต้องแจ้งให้กับนักท่องเที่ยวทราบก่อนออกเดินทาง
  • กรณีที่ท่านต้องออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ กรุณาจองตั๋วที่สามารถเลื่อนเวลา และวันเดินทางได้ เพราะจะมีบางกรณีที่สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนวันเวลาบิน มิฉะนั้นทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
  • กรณีที่ท่านเป็นอิสลาม หรือแพ้อาหารเนื้อสัตว์บางประเภท ให้ท่านโปรดระบุมาให้ชัดเจน
  • กรุณาส่งรายชื่อผู้เดินทาง สำเนาหน้าพาสปอร์ต ให้กับเจ้าหน้าที่หลังจากที่ได้ชำระค่ามัดจำทัวร์ หรือค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ กรณีที่ท่านเดินทางเป็นครอบครัวหลายท่าน กรุณาแจ้งรายชื่อคู่นอนกับเจ้าหน้าที่ให้ทราบ
  • กรณีที่ออกตั๋วเครื่องบินแล้วสะกดชื่อ-นามสกุลผิด ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบหากท่านไม่ดำเนินการส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตให้ทางบริษัทในการออกตั๋วเครื่องบิน
  • กรณีเปลี่ยนชื่อผู้เดินทางจะต้องมีการแจ้งล่วงหน้าก่อนออกเดินทางตามข้อตกลง มิฉะนั้นถ้าแจ้งหลังจากเจ้าหน้าที่ออกเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จะต้องชำระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้
  • หลังจากที่ท่านได้ชำระค่ามัดจำ และค่าทัวร์ส่วนที่เหลือเรียบร้อยแล้ว ภายใน 3-7 วัน ก่อนการเดินทาง ทางบริษัทจะจัดส่งใบนัดหมายเตรียมตัวการเดินทางให้ท่านทางอีเมล์ หรือแฟกซ์ที่ท่านได้ระบุไว้
  • ราคาทัวร์ใช้ตั๋วเครื่องบินแบบกรุ๊ป ไม่สามารถเลื่อนวันเดินทางได้จะต้องเดินทางไป-กลับตามวันเดินทางที่ระบุเท่านั้น
  • ทางบริษัทไม่มีนโยบายในการจัดคู่นอนให้แก่ลูกค้าที่ไม่รู้จักกัน กรณีที่ท่านเดินทาง 1 ท่าน จะต้องจ่ายค่าพักเดี่ยวเพิ่มตามราคาที่ระบุไว้ในรายการทัวร์เท่านั้น
  • PASSPORT ต้องมีอายุการใช้ไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก่อนหมดอายุ นับจากวันเดินทาง ไป-กลับ
  • ลูกค้าที่เดินทาง 3 ท่าน อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (พักเดี่ยว) ขึ้นอยู่กับมาตราฐานโรงแรม ส่วนห้อง TRP จะไม่มีในบางประเทศ ยกเว้น เด็ก Infant-12 ปี
  • การให้ทิปเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับนักท่องเที่ยวเดินทางไปต่างประเทศ จะต้องมีการเรียกเก็บเพื่อเป็นสินน้ำใจกับผู้ให้บริการในส่วนต่างๆ จึงรบกวนทุกท่านเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพื่อมอบให้หัวหน้าทัวร์ระหว่างการเดินทาง

 

 

อัตราค่าบริการนี้รวม
  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป – กลับพร้อมคณะ สายการบิน Mahan Air
  • ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ 1 เที่ยวสายการบิน Turkish Airlines
  • ค่าที่พักโรงแรมระดับมาตราฐานหรือเทียบเท่า 5 ดาว และพักโรงแรมสไตล์ถ้ำ 1 คืน หรับพักห้องละ 2 ท่าน (ในกรณีมีงานเทรดแฟร์ การแข่งขันกีฬา หรือกิจกรรมอื่นๆ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการย้ายพักในเมืองใกล้เคียงแทน อาจจะมีการปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม)
  • ค่าอาหารครบทุกมื้อ ตามที่ระบุในรายการ ทางบริษัทจึงขอสงวนสิทธิ์นการเปลี่ยนแปลง
  • ค่ารถรับ – ส่งสนามบิน และตลอดรายการทัวร์
  • ค่าอัตราเข้าชมสถานที่ต่างๆ ที่ระบุไว้ในรายการ  
  • ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทนำเที่ยว และการอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางในวงเงิน ท่านละ 2,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

หมายเหตุ **ในกรณีลูกค้าท่านใดสนใจ ซื้อประกันการเดินทางเพื่อให้ครอบคลุมในเรื่องสุขภาพ ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าของบริษัท** อัตราเบี้ยประกันเริ่มต้น 390 บาท ขึ้นอยู่ระยะเวลาการเดินทาง

  • ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการที่ระบุ พร้อมพนักงานขับรถที่ชำนาญทาง (ไม่รวมทิปพนักงานขับรถ)

 

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
  • ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์ไทย ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และพนักงานขับรถตามธรรมเนียมคือ 80 USD /ท่าน

ตลอดทริปการเดินทาง

  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด ฉะนั้นกระเป๋าจะต้องไม่เกณฑ์น้ำหนักดังนี้ กระเป๋าโหลดใต้เครื่องบินจำนวนไม่เกินท่านละ 2 ใบ รวมกันไม่เกิน 30 กิโลกรัม และกรณีถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 7 กิโลกรัม สำหรับระหว่างประเทศ ไม่เกิน 20 กิโลกรัม สำหรับในประเทศ
  • ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง อาหารที่สั่งเพิ่ม ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ
  • ค่าอาหารที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ และสำหรับราคานี้ทางบริษัทจะไม่รวมค่าภาษีท่องเที่ยวหากมีการเก็บเพิ่ม
  • ค่าทำใบอนุญาตกลับเข้าประเทศของคนต่างชาติ หรือคนต่างด้าว
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%, ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระ ที่หนักเกินสายการบินกำหนด
  • ค่ายกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ในโรงแรม
    • ค่าใช้จ่ายในการกักตัวในโรงแรม และตรวจ ATK Test หลังจากเดินทางมาถึงประเทศไทย อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่การประกาศ เงื่อนไขของรัฐบาลในวันที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทย
    • ค่าใช้จ่ายในการทำ RT PCR TEST เข้า และ ออกประเทศ อาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่การประกาศใช้ตุรกีและไทย
  •  

 

หมายเหตุ
  1. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางก่อนล่วงหน้า ในกรณีที่ไม่สามารถทำกรุ๊ปได้อย่างน้อย 15 ท่าน ซึ่งในกรณีนี้ ทางบริษัทยินดีคืนเงินให้ทั้งหมดโดยหักค่าธรรมเนียมวีซ่า (ถ้ามี) หรือจัดหาคณะทัวร์อื่นให้ ถ้าต้องการ
  2. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้ และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ และเหตุสุดวิสัยบางประการเช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจลต่างๆ
  3. รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมเนื่องจากความล่าช้าของสายการบิน โรงแรมที่พักในต่างประเทศ เหตุการณ์ทางการเมืองและภัยธรรมชาติฯลฯ โดยบริษัทจะคำนึงถึงความสะดวกของผู้เดินทางเป็นสำคัญ และบริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองห้ามผู้เดินทางเนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมายหรือสิ่งของห้ามนำเข้าประเทศ หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย หรือด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว  ทางบริษัทไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่สถานทูตงดออกวีซ่า อันสืบเนื่องมาจากผู้โดยสารเอง รวมทั้งบริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองประเทศไทยงดออกเอกสารเข้าเมืองให้กับชาวต่างชาติ หรือคนต่างด้าวที่พำพักอยู่ในประเทศไทย
  4. มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนของบริษัทไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนบริษัท นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น
  5. เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำ หรือทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัท หรือชำระโดยตรงกับทางทางบริษัทจะถือว่าท่านรับทราบ และยอมรับในเงื่อนไขต่างๆ ของบริษัทที่ได้ระบุไว้โดยทั้งหมด

 

เงื่อนไขในการสำรองที่นั่ง

การจอง หรือสำรองที่นั่ง

  • กรุณาจองล่วงหน้าก่อนการเดินทางพร้อมชำระมัดจำ งวดแรก 20,000 บาท
  • ส่วนที่เหลือชำระทันทีก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน มิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทาง

การยกเลิก

  • แจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน ก่อนการเดินทาง คืนเงินมัดจำทั้งหมด
  • แจ้งล่วงหน้า 45 – 59 วัน ก่อนการเดินทาง หักค่ามัดจำท่านละ 5,000 บาท
  • แจ้งล่วงหน้า 31 – 44 วัน ก่อนการเดินทาง หักค่ามัดจำท่านละ 10,000 บาท
  • แจ้งล่วงหน้า 21 – 30 วัน ก่อนการเดินทาง หักค่ามัดจำท่านละ 50% ของราคาทัวร์
  • แจ้งล่วงหน้า 1 – 20 วัน ก่อนการเดินทาง หักค่าดำเนินการต่างๆ รวม 100% ของราคาทัวร์
  • ยกเลิกการเดินทาง ในวันเดินทาง, ถูกปฎิเสธการเข้าเมือง จะไม่มีการคืนเงินทั้งหมด
  • กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายใดๆ
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายใดๆ ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย เช่น การยกเลิกหรือล่าช้าของสายการบิน, อุบัติเหตุ, ภัยธรรมชาติ, การนัดหยุดงาน, การจลาจล หรือสิ่งของสูญหายตามสถานที่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหนือการควบคุมของบริษัทฯ

 

หมายเหตุ: บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงราคาตามความเหมาะสมทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน และสายการบิน (โดยเฉพาะภาษีน้ำมัน ซึ่งมีการผันผวนตลอดเวลา) สภาพทางการเมือง ภัยธรรมชาติ แต่ยังคงจะรักษามาตรฐานการบริการ และคำนึงถึงความต้องการความปลอดภัย และประโยขน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ